Baan Satsana 3

การเตรียมพื้นที่สำหรับลูกน้อยในอนาคต นี่คือโจทย์สำหรับการออกแบบครั้งนี้ พื้นที่ใช้สอยนี้ต้องออกแบบให้อย่างละเอียดรอบคอบมาก การวางผังจัดให้ห้องนอนมีขนาดใหญ่ที่สามารถแบ่งด้วยบานเฟี้ยมให้เป็นห้องขนาดเล็ก 2 ห้อง จัดให้นอนผู้ใหญ่อยู่ด้านในเพราะอยู่ใกล้กับห้องแต่งตัวและห้องน้ำเดิม ส่วนห้องนอนลูกน้อยจัดไว้ด้านนอกเพื่อสะดวกในการล้างอุปกรณ์เลี้ยงลูกต่างๆเพราะด้านหลังเป็นซักล้างสะดวกต่อการใช้งาน และอีกเหตุผลที่ต้องมีบานเฟี้ยมกันห้องเพราะว่าคุณแม่สามารถฝากลูกไว้กับคุณพ่อและตนเองพักผ่อนอีกห้องได้หรือเมื่อคุณพ่อทำงานมากหนักจะพักผ่อนอีกห้องก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย ในเรื่องวัสดุเราเลือกเป็นวัสดุธรรมชาติเช่น พื้นลามิเนตลายไม้เพื่อลดการกระแทก จากการคลาน เดินหรือการเล่นของลูกน้อย และโทนสีก็จะเป็นลวดลายไม้ผสมสีขาวให้อารณ์ผ่อนคลายไม่อึดอัด สามารถลดทอนความเครียดจากการเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างดี

โจทย์ที่ได้รับจากเจ้าของบ้านมีประมาณนี้: - เจ้าของบ้านให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว” อย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน สมาชิกในบ้านมักมีกิจกรรมสังสรรค์หรือรับแขกอยู่เสมอ - ต้องการกลิ่นอายของ “สถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้น (Tropical)” แต่ไม่ดูแก่(มีความร่วมสมัย) โดยเฉพาะ “หลังคาจั่ว” ที่เจ้าของบ้านชอบเป็นพิเศษ - เจ้าของบ้านเป็นคนชอบธรรมชาติ/วิวสวน/ต้นไม้ ต้องการมุมมองที่เปิดโล่งและการระบายอากาศที่ดี - อยากให้ “พื้นที่จอดรถ” แยกออกจากตัวบ้านหลัก . จากเงื่อนไขทั้งหมดนี้ ผมนึกถึง “การวางผังแบบกระจายตัว” คล้ายรีสอร์ทที่เชื่อมต่อกันด้วย “ทางเดินชม/เสพ ธรรมชาติ” แทนการรวมอาคารเป็นกลุ่มเดียว . เจ้าของบ้าน Approved! เห็นด้วยกับแนวทางนี้ และด้วยพื้นที่ก่อสร้างราว 3 ไร่ (จากพื้นที่ทั้งหมด 13 ไร่) จึงเอื้อต่อการจัดวางอาคารแบบกระจายตัวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ . โดยบ้านถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่: 1.พื้นที่ส่วนจอดรถ 2.พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน/Service 3.ส่วนนอนสมาชิกครอบครัว 4.วิลล่าส่วนตัวของเจ้าของบ้าน . ข้อดีของการจัดอาคารแบบนี้ คือสามารถแยกกิจกรรมที่คึกคักของสมาชิก กับความสงบของเจ้าของบ้าน ได้โดยไม่รบกวนกัน ในขณะเดียวกัน ทุกพื้นที่ยังเชื่อมถึงกันได้สะดวกผ่าน ทางเดินกึ่งเปิดโล่ง ที่โปร่ง ระบายอากาศดี มีหลังคาคลุมป้องกันแดดฝน และแทรกมุมพักผ่อนแบบ Semi-Outdoor ให้นั่งเล่นระหว่างวัน